เช่า เซต 2 อุปกรณ์ทำงานที่อับอากาศ

฿4,025.00฿43,745.00

อุปกรณ์ทำงานในพื้นที่อับอากาศ เช่น เครื่องตรวจวัดอากาศ M40 PRO และเครื่องช่วยหายใจ SCBA ขนาด 6.8 ลิตร มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานโดยตรง เครื่องตรวจวัดอากาศใช้เพื่อตรวจเช็คระดับออกซิเจนและสารพิษ ก่อนการเข้าปฏิบัติงานควรใช้พัดลมระบายอากาศเพื่อหมุนเวียนอากาศในพื้นที่ที่ปิดหรือมีการสะสมแก๊ส ระบบช่วยชีวิต Sked® และไตรพอด 3 ขาพร้อมรอกประกอบเชือกจะช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีฉุกเฉินหรือช่วยดึงตัวขึ้นเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีความลึก อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องใช้อย่างถูกวิธีและตรวจสอบก่อนใช้งานเสมอ

Size and packaging guidelines

Specification Chair Armchair Sofas
Height 37" 42" 42"
Width 26.5" 32.5" 142"
Depth 19.5" 22.5" 24.5"
Assembly Required No No Yes
Packaging Type Box Box Box
Package Weight 55 lbs. 64 lbs. 180 lbs.
Packaging Dimensions 27" x 26" x 39" 45" x 35" x 24" 46" x 142" x 25"
คำอธิบาย

การใช้งานอุปกรณ์ทำงานในที่อับอากาศต้องมีการเตรียมตัวและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน เนื่องจากสภาพแวดล้อมในพื้นที่อับอากาศนั้นเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ง่าย เช่น การขาดอากาศหายใจ การสัมผัสสารเคมี หรือการเกิดไฟไหม้ ซึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีประกอบด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดอากาศ ระบบช่วยชีวิต พัดลมระบายอากาศ และเครื่องช่วยหายใจ ดังนี้

1. Honeywell BW Max XT II Multi-Gas , 4-Gas

เครื่องตรวจวัดอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่อับอากาศ โดยเฉพาะการตรวจหาออกซิเจน ก๊าซพิษ หรือสารเคมีที่เป็นอันตราย เครื่องที่มีปั๊มช่วยในการดูดอากาศจากพื้นที่ที่ต้องการตรวจสอบ เพื่อให้สามารถวัดค่าต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น

วิธีใช้งาน

  1. เปิดเครื่องและตั้งค่า – ตรวจสอบว่าเครื่องมีแบตเตอรี่เพียงพอ และเปิดเครื่องโดยกดปุ่มเปิดใช้งาน หลังจากนั้นรอให้เครื่องตรวจสอบระบบอัตโนมัติ
  2. ปรับโหมดการวัด – เลือกโหมดการวัดที่ต้องการ เช่น โหมดสำหรับอากาศในที่อับ
  3. นำไปทดสอบในพื้นที่ที่ต้องการ – นำเครื่องตรวจวัดไปที่พื้นที่อับอากาศที่ต้องการวัด โดยควรวางไว้ในจุดที่มีการระบายอากาศไม่ดีและมีโอกาสที่จะแก๊สจะสะสม
  4. อ่านค่าที่ได้ – อ่านค่าแก๊สแต่ละประเภทที่แสดงบนหน้าจอของเครื่องตรวจวัด หากค่าที่แสดงเกินมาตรฐานควรหยุดปฏิบัติงานทันทีและแจ้งทีมความปลอดภัย
  5. ปิดเครื่องและบำรุงรักษา – หลังใช้งานเสร็จ ให้ปิดเครื่อง เช็ดทำความสะอาด และตรวจสอบแบตเตอรี่เพื่อพร้อมใช้งานครั้งต่อไป

2. เปลกู้ภัย SKED Stretcher

เปลกู้ภัย SKED Stretcher เป็นเปลพลาสติกชนิดพิเศษที่สามารถม้วนเก็บได้ เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บในพื้นที่อับอากาศหรือเข้าถึงยาก ใช้งานได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง แข็งแรง ทนทาน และพกพาสะดวก

วิธีใช้งาน

  1. ประกอบระบบช่วยชีวิต – เปิดกระเป๋าและประกอบอุปกรณ์ให้เรียบร้อย ประกอบด้วยแผ่นรองตัว สายรัด และระบบดึง
  2. วางแผ่นรองในพื้นที่ที่ต้องการช่วยเหลือ – วางแผ่นรองตัวภายใต้ผู้ประสบภัยในท่าที่สามารถดึงตัวขึ้นได้อย่างปลอดภัย
  3. รัดสายเพื่อยึดตัวผู้ประสบภัย – ใช้สายรัดที่มีมาในระบบเพื่อยึดตัวผู้ประสบภัยให้แน่นหนาและมั่นคง
  4. ใช้ระบบดึงเพื่อเคลื่อนย้าย – ใช้ระบบดึงใน Sked เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่อับอากาศ โดยมีผู้ปฏิบัติงานคอยควบคุมและช่วยเหลืออยู่ตลอด

3. พัดลมระบายอากาศ 6 นิ้ว พร้อมท่อ 5 เมตร ยี่ห้อ S-power

พัดลมระบายอากาศขนาด 6 นิ้ว พร้อมท่อลมยาว 5 เมตร ยี่ห้อ S-power เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อการระบายอากาศในพื้นที่อับอากาศหรือพื้นที่ที่มีการสะสมของกลิ่นและความชื้น เช่น ห้องเก็บของ ห้องใต้ดิน หรือพื้นที่ทำงานที่มีการระบายอากาศไม่เพียงพอ

วิธีใช้งาน

  1. ตั้งพัดลมในตำแหน่งที่เหมาะสม – วางพัดลมในตำแหน่งที่สามารถหมุนเวียนอากาศได้ดี โดยปกติจะวางไว้ในทางเข้าออกของพื้นที่อับอากาศ
  2. เปิดพัดลม – เปิดสวิตช์และตั้งค่าความแรงของพัดลมให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่
  3. ตรวจสอบการหมุนเวียนอากาศ – ตรวจสอบว่าพัดลมระบายอากาศทำงานได้ดีพอที่จะช่วยหมุนเวียนอากาศ หากจำเป็นต้องเพิ่มพัดลมหรือเปลี่ยนตำแหน่ง
  4. ปิดและทำความสะอาดหลังใช้งาน – หลังการใช้งานปิดพัดลมและทำความสะอาดเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น

4. เครื่องช่วยหายใจ (SCBA) 6.8 ลิตร ยี่ห้อ MSA

ชุดเครื่องช่วยหายใจแบบอิสระ (SCBA) ความจุ 6.8 ลิตร ยี่ห้อ MSA เป็นอุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การดับเพลิง การทำงานในพื้นที่อับอากาศ หรือสภาพแวดล้อมที่มีสารพิษหรือขาดออกซิเจน

วิธีใช้งาน

  1. สวมอุปกรณ์และปรับสายรัด – สวมอุปกรณ์บริเวณศีรษะและปรับสายรัดให้แน่นหนาเพื่อป้องกันการเลื่อนหลุดขณะใช้งาน
  2. เปิดวาล์วออกซิเจน – เปิดวาล์วที่ถังอากาศเพื่อให้อากาศไหลเข้าสู่หน้ากาก
  3. ตรวจสอบหน้ากาก – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ากากยึดติดแน่นกับใบหน้า ไม่มีช่องโหว่ให้อากาศภายนอกเข้าสู่หน้ากากได้
  4. เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศ – เมื่อพร้อมแล้วให้เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศ โดยควรสังเกตการทำงานของเครื่องช่วยหายใจอยู่เสมอ
  5. ออกจากพื้นที่และถอดอุปกรณ์ – หลังเสร็จสิ้นการทำงานให้ออกจากพื้นที่อับอากาศ และปิดวาล์วออกซิเจนเพื่อหยุดการใช้งาน ถอดอุปกรณ์และตรวจสอบความสมบูรณ์เพื่อพร้อมใช้งานในครั้งถัดไป
ข้อมูลเพิ่มเติม
ระยะเวลาเช่า

1 วัน

,

1 สัปดาห์

,

1 เดือน

Shipping & Delivery

บริการเช่า PPE ครบวงจร

บริการเช่า PPE ครบวงจร เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนการจัดหาชุดป้องกันส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นหมวกนิรภัย, แว่นตานิรภัย, ถุงมือ, ชุดป้องกันสารเคมี, หรือรองเท้านิรภัย บริการนี้ช่วยให้คุณได้รับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพผ่านการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ ลดภาระในการจัดการสต็อกและความยุ่งยากในการทำความสะอาด นอกจากนี้ยังมีบริการจัดส่งถึงสถานที่ พร้อมคำแนะนำการใช้งานที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของพนักงานและการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ