เซต 2 อุปกรณ์ทำงานที่อับอากาศ

฿321.00฿2,200.00

อุปกรณ์ทำงานในพื้นที่อับอากาศ เช่น เครื่องตรวจวัดอากาศ M40 PRO และเครื่องช่วยหายใจ SCBA ขนาด 6.8 ลิตร มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานโดยตรง เครื่องตรวจวัดอากาศใช้เพื่อตรวจเช็คระดับออกซิเจนและสารพิษ ก่อนการเข้าปฏิบัติงานควรใช้พัดลมระบายอากาศเพื่อหมุนเวียนอากาศในพื้นที่ที่ปิดหรือมีการสะสมแก๊ส ระบบช่วยชีวิต Sked® และไตรพอด 3 ขาพร้อมรอกประกอบเชือกจะช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีฉุกเฉินหรือช่วยดึงตัวขึ้นเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีความลึก อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องใช้อย่างถูกวิธีและตรวจสอบก่อนใช้งานเสมอ
1. เครื่องวัดแก๊ส M40-PROเลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
฿1,284.00฿6,420.00
เปลกู้ภัย (Skedco)เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
฿1,750.00฿11,250.00
พัดลมระบายอากาศ 12 นิ้วเลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
฿321.00฿9,100.00
FPPE-0001 ชุดเซทเครื่องช่วยหายใจ (SCBA) 30 ลิตร ยี่ห้อ MS-1เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
฿2,200.00฿18,750.00
ไตรพอต 3 ขา รอกประกอบ (เชือก)เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
฿1,605.00฿18,725.00

Size and packaging guidelines

Fermentum scelerisque hendrerit parturient nullam enim lobortis litora parturient dictumst.

Potenti a quisque tincidunt venenatis adipiscing parturient fermentum nisl tincidunt amentu.

Scelerisque conubia lobortis a condimentum ad eleifend dui integer maecenas habitant nostra.

Specification Chair Armchair Sofas
Height 37" 42" 42"
Width 26.5" 32.5" 142"
Depth 19.5" 22.5" 24.5"
Assembly Required No No Yes
Packaging Type Box Box Box
Package Weight 55 lbs. 64 lbs. 180 lbs.
Packaging Dimensions 27" x 26" x 39" 45" x 35" x 24" 46" x 142" x 25"
คำอธิบาย

การใช้งานอุปกรณ์ทำงานในที่อับอากาศต้องมีการเตรียมตัวและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน เนื่องจากสภาพแวดล้อมในพื้นที่อับอากาศนั้นเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ง่าย เช่น การขาดอากาศหายใจ การสัมผัสสารเคมี หรือการเกิดไฟไหม้ ซึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีประกอบด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดอากาศ ระบบช่วยชีวิต พัดลมระบายอากาศ และเครื่องช่วยหายใจ ดังนี้

1. เครื่องตรวจวัดอากาศ M40 PRO

เครื่องตรวจวัดอากาศ M40 PRO เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยตรวจสอบความปลอดภัยของอากาศภายในพื้นที่อับอากาศก่อนและขณะปฏิบัติงาน โดยจะตรวจวัดค่าต่างๆ เช่น ปริมาณออกซิเจน แก๊สไวไฟ และแก๊สพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์

วิธีใช้งาน

  1. เปิดเครื่องและตั้งค่า – ตรวจสอบว่าเครื่องมีแบตเตอรี่เพียงพอ และเปิดเครื่องโดยกดปุ่มเปิดใช้งาน หลังจากนั้นรอให้เครื่องตรวจสอบระบบอัตโนมัติ
  2. ปรับโหมดการวัด – เลือกโหมดการวัดที่ต้องการ เช่น โหมดสำหรับอากาศในที่อับ
  3. นำไปทดสอบในพื้นที่ที่ต้องการ – นำเครื่องตรวจวัดไปที่พื้นที่อับอากาศที่ต้องการวัด โดยควรวางไว้ในจุดที่มีการระบายอากาศไม่ดีและมีโอกาสที่จะแก๊สจะสะสม
  4. อ่านค่าที่ได้ – อ่านค่าแก๊สแต่ละประเภทที่แสดงบนหน้าจอของเครื่องตรวจวัด หากค่าที่แสดงเกินมาตรฐานควรหยุดปฏิบัติงานทันทีและแจ้งทีมความปลอดภัย
  5. ปิดเครื่องและบำรุงรักษา – หลังใช้งานเสร็จ ให้ปิดเครื่อง เช็ดทำความสะอาด และตรวจสอบแบตเตอรี่เพื่อพร้อมใช้งานครั้งต่อไป

2. ระบบช่วยชีวิต Sked® Basic Rescue System

Sked® Basic Rescue System เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานในกรณีเกิดอุบัติเหตุภายในพื้นที่อับอากาศ เช่น อาการหมดสติ การติดอยู่ในที่แคบ หรือการเกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงาน

วิธีใช้งาน

  1. ประกอบระบบช่วยชีวิต – เปิดกระเป๋าและประกอบอุปกรณ์ให้เรียบร้อย ประกอบด้วยแผ่นรองตัว สายรัด และระบบดึง
  2. วางแผ่นรองในพื้นที่ที่ต้องการช่วยเหลือ – วางแผ่นรองตัวภายใต้ผู้ประสบภัยในท่าที่สามารถดึงตัวขึ้นได้อย่างปลอดภัย
  3. รัดสายเพื่อยึดตัวผู้ประสบภัย – ใช้สายรัดที่มีมาในระบบเพื่อยึดตัวผู้ประสบภัยให้แน่นหนาและมั่นคง
  4. ใช้ระบบดึงเพื่อเคลื่อนย้าย – ใช้ระบบดึงใน Sked เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่อับอากาศ โดยมีผู้ปฏิบัติงานคอยควบคุมและช่วยเหลืออยู่ตลอด

3. พัดลมระบายอากาศ

พัดลมระบายอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการระบายอากาศในพื้นที่อับอากาศเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ลดการสะสมของแก๊สพิษ และช่วยลดอุณหภูมิในพื้นที่นั้น

วิธีใช้งาน

  1. ตั้งพัดลมในตำแหน่งที่เหมาะสม – วางพัดลมในตำแหน่งที่สามารถหมุนเวียนอากาศได้ดี โดยปกติจะวางไว้ในทางเข้าออกของพื้นที่อับอากาศ
  2. เปิดพัดลม – เปิดสวิตช์และตั้งค่าความแรงของพัดลมให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่
  3. ตรวจสอบการหมุนเวียนอากาศ – ตรวจสอบว่าพัดลมระบายอากาศทำงานได้ดีพอที่จะช่วยหมุนเวียนอากาศ หากจำเป็นต้องเพิ่มพัดลมหรือเปลี่ยนตำแหน่ง
  4. ปิดและทำความสะอาดหลังใช้งาน – หลังการใช้งานปิดพัดลมและทำความสะอาดเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น

4. เครื่องช่วยหายใจ (SCBA) ขนาด 6.8 ลิตร

เครื่องช่วยหายใจชนิด Self-Contained Breathing Apparatus (SCBA) ขนาด 6.8 ลิตร เป็นอุปกรณ์ที่ให้ผู้ปฏิบัติงานมีอากาศบริสุทธิ์ใช้หายใจภายในพื้นที่ที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอหรือมีสารพิษเจือปน

วิธีใช้งาน

  1. สวมอุปกรณ์และปรับสายรัด – สวมอุปกรณ์บริเวณศีรษะและปรับสายรัดให้แน่นหนาเพื่อป้องกันการเลื่อนหลุดขณะใช้งาน
  2. เปิดวาล์วออกซิเจน – เปิดวาล์วที่ถังอากาศเพื่อให้อากาศไหลเข้าสู่หน้ากาก
  3. ตรวจสอบหน้ากาก – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ากากยึดติดแน่นกับใบหน้า ไม่มีช่องโหว่ให้อากาศภายนอกเข้าสู่หน้ากากได้
  4. เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศ – เมื่อพร้อมแล้วให้เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศ โดยควรสังเกตการทำงานของเครื่องช่วยหายใจอยู่เสมอ
  5. ออกจากพื้นที่และถอดอุปกรณ์ – หลังเสร็จสิ้นการทำงานให้ออกจากพื้นที่อับอากาศ และปิดวาล์วออกซิเจนเพื่อหยุดการใช้งาน ถอดอุปกรณ์และตรวจสอบความสมบูรณ์เพื่อพร้อมใช้งานในครั้งถัดไป

5. ไตรพอด 3 ขา รอกประกอบ (เชือก)

ไตรพอด 3 ขา เป็นอุปกรณ์ช่วยดึงผู้ปฏิบัติงานขึ้นจากพื้นที่อับอากาศที่อยู่ในระดับลึก เช่น บ่อ ท่อ หรือหลุม โดยใช้ระบบรอกประกอบกับเชือกเพื่อความปลอดภัย

วิธีใช้งาน

  1. ติดตั้งไตรพอตในตำแหน่งที่เหมาะสม – วางไตรพอดในตำแหน่งเหนือพื้นที่อับอากาศที่ต้องการใช้งานให้มั่นคงและแข็งแรง
  2. ประกอบรอกและเชือก – ติดตั้งรอกและเชือกกับไตรพอดให้มั่นคง โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่ารอกทำงานได้ดีและเชือกสามารถรองรับน้ำหนักผู้ปฏิบัติงานได้
  3. เชื่อมต่อผู้ปฏิบัติงานกับระบบดึง – ใช้สายรัดตัวเชื่อมต่อผู้ปฏิบัติงานกับเชือกที่ติดตั้งกับรอก
  4. ใช้ระบบรอกในการดึงตัวขึ้นหรือลง – หากต้องการดึงผู้ปฏิบัติงานขึ้นหรือปล่อยลง ให้ใช้ระบบรอกคอยควบคุมให้ผู้ปฏิบัติงานเคลื่อนที่อย่างปลอดภัย
  5. ถอดอุปกรณ์และเก็บรักษาหลังใช้งาน – เมื่อเสร็จสิ้นการใช้งาน ถอดรอกและเชือกออกจากไตรพอด และทำความสะอาดอุปกรณ์เพื่อพร้อมใช้งานในครั้งต่อไป

ข้อควรระวังในการใช้อุปกรณ์ทำงานในพื้นที่อับอากาศ

  • ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งาน – ควรตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นว่าทำงานได้ดี และไม่มีการชำรุดก่อนนำไปใช้
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งาน – ใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้องตามคู่มือและคำแนะนำของผู้ผลิต
  • ฝึกอบรมการใช้งานอุปกรณ์ – ผู้ปฏิบัติงานควรได้รับการฝึกอบรมการใช้งานอุปกรณ์ในพื้นที่อับอากาศ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
  • สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตามมาตรฐาน – การใช้อุปกรณ์เสริม เช่น หมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย หรือถุงมือ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
Shipping & Delivery

บริการเช่า PPE ครบวงจร

บริการเช่า PPE ครบวงจร เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนการจัดหาชุดป้องกันส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นหมวกนิรภัย, แว่นตานิรภัย, ถุงมือ, ชุดป้องกันสารเคมี, หรือรองเท้านิรภัย บริการนี้ช่วยให้คุณได้รับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพผ่านการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ ลดภาระในการจัดการสต็อกและความยุ่งยากในการทำความสะอาด นอกจากนี้ยังมีบริการจัดส่งถึงสถานที่ พร้อมคำแนะนำการใช้งานที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของพนักงานและการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ